Home > เครื่องประดับแบบดั้งเดิม > 4 เทคนิคใส่เครื่องประดับกับ ชุดไทย ไม่โดนเม้าท์ว่าเป็นลิเกหลงโรง

4 เทคนิคใส่เครื่องประดับกับ ชุดไทย ไม่โดนเม้าท์ว่าเป็นลิเกหลงโรง

เครื่องประดับกับหญิงสาวนี่ขาดกันไม่ได้นะคะ โดยเฉพาะวันสำคัญอย่างวันแต่งงานที่ต้องใส่ ชุดไทย สวยๆ งามๆ เครื่องประดับก็ต้องจัดเต็ม แต่! ที่บอกว่าจัดเต็มไม่ใช่ประโคมทุกอย่างมาบนตัวนะคะ ของอย่างนี้มันมีทริคในการเลือกให้สวยแบบพอดีนะ

1.เลือกชุดไทยให้ได้ก่อน

อย่างแรกที่ต้องทำคือ เลือกชุดไทยค่ะ ซึ่งก็มีให้เลือกมากมายหลายแบบหลายสมัย ไม่ว่าจะห่มสไบนุ่งผ้าถุง นุ่งยกห่มตาด หรือเสื้อลูกไม้แขนหมู่แฮมแล้วนุ่งโจงกระเบน เลือกให้ได้ซะก่อนว่าอยากสวยสมัยไหน แล้วค่อยเลือกเครื่องประดับที่เข้ากันกับชุด อ้อ!..แต่ถ้าคุณเป็นเพื่อนเจ้าสาว อย่าลืมดูชุดเจ้าสาวด้วยว่านางเลือกชุดสมัยไหน แล้วก็เลือกชุดสมัยเดียวกัน จะได้ไม่หลงยุค

ถ้าคุณนุ่งยกห่มตาดหรือนุ่งสไบใส่ผ้าถุง ขอให้เลือกเครื่องประดับที่สีคลุมโทน เช่น หากเป็นชุดสีโทนร้อน อย่างสีทอง สีแดง สีน้ำตาล หรือสีชมพู เครื่องประดับที่เลือกก็ควรจะเป็น สีทองชมพู หรือเซตกันตายใส่เมื่อไหร่ก็ไม่พังคือ “สีทอง” หากชุดเป็นสีโทนเย็น เช่น สีขาว หรือสีฟ้า ให้เลือกชุดเครื่องเงินมาเป็นเครื่องประดับ เช่น สร้อยเงิน กำไลเงิน สังวาลเงิน เป็นต้น

ระวัง! เครื่องประดับที่ฝังมรกตและพลอยหลากสี ระยิบระยับวิบวับ ต้องลองนำมาทาบกับชุด ลองใส่แล้วดูให้ดีว่าเข้ากันหรือไม่ เยอะไปหรือเปล่า มิเช่นนั่นคนจะคิดว่าเป็นนางรำมากกว่าเป็นเจ้าสาว เทคนิคนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะเจ้าสาวเท่านั้น แต่เพื่อนเจ้าสาว รวมถึงแม่เจ้าสาวก็นำไปใช้ได้เช่นกัน

นึกภาพเสื้อผ้าลูกไม้แขนพอง หรือที่เรียกกันว่าแขนหมูแฮม นุ่งคู่กับโจงกระเบนออกใช่ไหมคะ ชุดสไตล์นี้แมทช์เครื่องประดับง่ายมาก เลือกแค่สร้อยมุกสายยาวมาคล้องคอ เสริมด้วยต่างหูมุกไม่ต้องใหญ่มาก แค่นี้ก็สวยแล้วจ้ะ

เครื่องประดับชิ้นหลักที่ควรจะอยู่บนเรือนร่างมีไม่กี่ชิ้น คือ ต่างหู สร้อยคอ และเข็มขัด แค่นี้ก็โอเคแล้ว ส่วนกำไล สังวาล ข้อแขน และแหวนอยากจะให้ลองใส่ดูก่อน เพราะไม่อยากให้กลายเป็นตู้ทองเคลื่อนที่ ถ้าเยอะไปก็เอาออกได้ ไม่มีใครว่านะ

Leave a Comment